กฎอัยการศึก

การเปรียบเทียบ
1 พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณฉุกเฉิน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในฯ
อํานาจในการประกาศ
ผูบังคับบัญชาทหารซึ่งมีกําลังอยูใตบังคับไมนอยกวาหนึ่งกองพัน หรือเปนผูบังคับบัญชาในปอมหรือที่มั่นอยางใดๆ ของทหาร ณ ที่ซึ่งมีสงครามหรือจราจลเกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีอํานาจในการประกาศสถานการณ
ฉุกเฉินหรือสถานการณฉุกเฉินรายแรง เพื่อบังคับใชทั่วราชอาณาจักรหรือในบางเขตบางทองที่ตามความจําเปน และมีอํานาจในการประกาศขยายเวลาบังคับใช้
เปนอํานาจตามพระราชบัญญัติในการจัดตั้งกองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายใน
ราชอาณาจักร(กอ.รมน.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเปนผูอํานวยการและเสนาธิการทหารบกเปนเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรีจะมีมติมอบหมายให กอ.รมน.เปนผูรับผิดชอบในหารปองกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแกไข หรือบรรเทาเหตุการณที่กระทบตอความมั่นคงภายในฯ เหตุที่จะทําใหประกาศ
เมื่อมีสงครามหรือจลาจลขึ้น มีเหตุอันจําเปนตองรักษาความสงบเรียบรอยจากภัยซึ่งมาจากภายนอกหรือภายในราชอาณาจักร
เมื่อมีสถานการณฉุกเฉินเกิดขึ้น คือสถานการณอันกระทบหรืออาจกระทบตอความสงบเรียบรอยของประชาชนหรือเปนภัยตอความมั่นคงของรัฐ หรืออาจทําใหประเทศหรือสวนใดสวนหนึ่งของประเทศตก
อยูในภาวะคับขันหรือมีการกระทําความผิดเกี่ยวกับการกอการรายตามประมวลกฎหมายอาญา การรบหรือการสงคราม และนายกรัฐมนตรีเห็นสมควรใชกําลังเจาหนาท่ฝีายปกครองหรือตํารวจ เจาหนาที่
ฝายพลเรือนหรือเจาหนาที่ฝายทหารรวมกันปองกัน แกไข ปราบปราม ระงับยับยั้ง ฟนฟู หรือชวยเหลือประชาชน
เมื่อปรากฏเหตุการณอันกระทบตอความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แตยังไมมีความจําเปนตองประกาศสถานการณฉุกเฉิน และเหตุการณนั้นมีแนวโนมที่จะมีอยูตอไป อํานาจตามกฎหมาย
1. เจาหนาที่ฝายทหารมีอํานาจเหนือเจาหนาที่ฝายพลเรือนในสวนที่เกี่ยวกับการยุทธ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบรอยและเจาหนาที่ฝายพลเรือนตองปฏิบัติตามความตองการของเจาหนาที่ฝายทหาร
1. คณะกรรมการบริหารสถานการณฉุกเฉิน มีอํานาจหนาที่ติดตามและตรวจสอบเหตุการณที่เกิดขึ้น
ทั้งภายในและภายนอกประเทศที่อาจเกิดสถานการณฉุกเฉินเพื่อเสนอแนะตอนายกรัฐมนตรี
1. กอ.รมน. มีอํานาจหนาที่ดังตอไปนี้
(1) ปองกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแกไขหรือบรรเทาเหตุการณที่กระทบตอความมั่นคงภายในราชอาณาจักรตามที่ไดรับมอบหมายตาม
มาตรา15 เปรียบเทียบเนื้อหากฎหมาย 3 ฉบับ, กฎอัยการศึก-พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.ความมั่นคง โดย อ.สมชาย ปรีชาศิปลกุล มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
2. ศาลพลเรือนคงมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีไดอยางปกติ เวนแตคดีที่อยูในอํานาจของศาลอาญาศึก ใหศาลทหารพิจารณาพิพากษาคดีอาญาซึ่งการกระทําผิดเกิดขึ้นในเขตที่ประกาศใชกฎ
อัยการศึกและในระหวางที่ใชกฎอัยการศึกตามที่ระบุไวในบัญชีตอทายพระราชบัญญัตินี้ทุกขอ หรือ
แตบางขอและหรือบางสวนของขอใดขอหนึ่งไดผูบัญชาการทหารสูงสุดจะสั่งใหพิจารณา
พิพากษาคดีอาญาใดที่เกิดขึ้นในเขตที่ประกาศใชกฎอัยการศึกมีเหตุพิเศษเก่ยวก ี ับความมั่นคงของ
ประเทศ หรือความสงบเรียบรอยของประชาชนได
3.เจาหนาที่ฝายทหารมีอํานาจเต็มที่จะตรวจคน ที่จะเกณฑ ที่จะหาม ที่จะยึด ที่จะเขาอาศัย ที่จะทําลายหรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ และที่จะขับไล

(ตามพ.ร.บ.กฎอัยการศึกฉบับนี้)
2.ในเขตทองที่ที่มีการประกาศสถานการณฉุกเฉิน นายกรัฐมนตรีมีอํานาจเปนการชั่วคราว แทน
รัฐมนตรีวาการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งหรือหลายกระทรวง หรือที่เปนผูรักษาการตามกฎหมายหรือที่มี
อยูตามกฎหมายใดก็ตาม เฉพาะในสวนที่เกี่ยวกับการอนุญาต อนุมัติ สั่งการ บังคับ บัญชา หรือชวยในการปองกัน แกไข ปราบปราม ระงับยับยั้งในสถานการณฉุกเฉินหรือฟนฟูหรือชวยเหลือประชาชน เพื่อใหการสั่งการและการแกไขสถานการณเปนไปโดยมีเอกภาพรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
3.กรณีที่มีความจําเปน คณะรัฐมนตรีอาจใหมีการจัดตั้งหนวยงานพิเศษเปนการเฉพาะเพื่อปฏิบัติหนาที่ตามพระราชกําหนดนี้เป็นการชั่วคราวได
4.กรณีเปนประกาศสถานการณฉุกเฉิน
นายกรัฐมนตรีมีอํานาจออกขอกําหนด ดังตอไปนี้
(1)หามมิใหบุคคลใดออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กําหนด เวนแตจะไดรับอนุญาตจาก
พนักงานเจาหนาที่ หรือเปนบุคคลซึ่งไดรับยกเวน
(2)หามมิใหมีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ หรือกระทําการใดอันเปนการยุยงใหเกิดความไม
สงบเรียบรอย
(3)หามการเสนอขาว การจําหนาย หรือทําใหแพรหลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ หรือสื่ออื่นใดที่มีขอความ
(2) จัดทําแผนการดําเนินการตาม(1)
และ แผนเผชิญเหตุในแตละเหตุการณที่คาดวาจะเกิดขึ้นรวมกับสํานักงานสภาความมั่นคงแหงชาติและหนวยงานของรัฐที่เกี่ยวของ เสนอตอคณะกรรมการเพื่อใหความเห็นชอบ
(3) กํากับ ติดตาม และเรงรัดหนวยงานของรัฐและเจาหนาที่ของรัฐที่เกี่ยวของใหดําเนินการ
หรือบูรณาการในการดําเนินการใหเปนไปตามแผนตาม(2)
(4) สั่งใหเจาหนาที่ของรัฐซึ่งมีพฤติกรรมวาจะเปนภัยตอความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือเปนอุปสรรคตอการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรออกจากพื้นที่ที่กําหนด

2. เพื่อประโยชนในการปองกัน ปราบปราม
ระงับ ยับยั้ง และแกไขหรือบรรเทาเหตุการณภายในพื้นที่ ใหผูอํานวยการโดยความเห็นชอบของ
คณะรัฐมนตรีมีอํานาจออกขอกําหนด ดังตอไปนี้
(1) ใหเจาหนาที่ของรัฐที่เกี่ยวของปฏิบัติการหรืองดเวนการปฏิบัติการอยางหนึ่งอยาง
ใด
(2) หามเขาหรือใหออกจากบริเวณพื้นที่อาคาร หรือสถานที่ที่กําหนดในหวงเวลาที่
ปฏิบัติการ เวนแตไดรับอนุญาตจากพนักงานเจาหนาที่ หรือเปนบุคคลซึ่งไดรับการยกเวน เปรียบเทียบเนื้อหากฎหมาย 3 ฉบับ, กฎอัยการศึก-พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.ความมั่นคง โดย อ.สมชาย ปรีชาศิปลกุล มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
3 อันอาจทําใหประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนขอมูลขาวสาร ทําใหเกิดความเขาใจผิดในสถานการณฉุกเฉินจนกระทบตอความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบรอยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ทั้งในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณฉุกเฉินหรือทั่วราชอาณาจักร
(4) หามการใชเสนทางคมนาคมหรือการใชยานพาหนะ หรือกําหนดเงื่อนไขการใชเสนทางคมนาคมหรือการใชยานพาหนะ
(5) หามการใชอาคาร หรือเขาไปหรืออยูในสถานที่ใดๆ
(6) ใหอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กําหนดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนดังกลาว หรือหาม
ผูใดเขาไปในพื้นที่ที่กําหนด
5. กรณีสถานการณฉุกเฉินที่มีความรายแรง
นายกรัฐมนตรีมีอํานาจดังตอไปนี้ดวย
(1) ประกาศใหพนักงานเจาหนาที่มีอํานาจจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยวาจะเปนผูรวมกระทําการใหเกิดสถานการณฉุกเฉิน หรือเปนผูใช ผูโฆษณา ผูสนับสนุนการกระทําเชนวานั้น หรือปกปดขอมูลเกี่ยวกับการกระทําใหเกิดสถานการณฉุกเฉิน ทั้งนี้ เทาที่มีเหตุจําเปนเพื่อปองกันมิใหบุคคลนั้นกระทําการหรือรวมมือกระทําการใด ๆ อันจะทําใหเกิดเหตุการณรายแรง หรือเพื่อใหเกิดความรวมมือในการ
(3) หามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กําหนด
(4) หามนําอาวุธออกนอกเคหสถาน
(5) หามการใชเสนทางคมนาคมหรือการใชยานพาหนะ หรือกําหนดเงื่อนไขการใชเสนทางคมนาคมหรือการใชยานพาหนะ
(6) ใหบุคคลปฏิบัติหรืองดเวนการปฏิบัติอยางหนึ่งอยางใดอันเกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณอิเล็กทรอนิกส เพื่อปองกันอันตรายที่จะเกิดแกชีวิต รางกาย หรือทรัพยสินของประชาชน
เปรียบเทียบเนื้อหากฎหมาย 3 ฉบับ, กฎอัยการศึก-พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.ความมั่นคง โดย อ.สมชาย ปรีชาศิปลกุล มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน 4 ระงับเหตุการณรายแรง
(2) ประกาศใหพนักงานเจาหนาที่มีอํานาจออกคําสั่งเรียกใหบุคคลใดมารายงานตัวตอพนักงานเจาหนาที่หรือมาใหถอยคําหรือสงมอบเอกสารหรือหลักฐานใดที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณฉุกเฉิน
(3) ประกาศใหพนักงานเจาหนาที่มีอํานาจออกคําสั่งยึดหรืออายัดอาวุธ สินคา เครื่องอุปโภคบริโภค
เคมีภัณฑ หรือวัตถุอื่นใด ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยวา ไดใชหรอจะใช ื สิ่งนั้น เพื่อการกระทําการหรือ
สนับสนุนการกระทําใหเกิดเหตุสถานการณฉุกเฉิน
(4) ประกาศใหพนักงานเจาหนาที่มีอํานาจออกคําสั่งตรวจคน รื้อ ถอน หรือทําลายซึ่งอาคาร สิ่งปลูก
สราง หรือสิ่งกีดขวาง ตามความจําเปนในการปฏิบัติหนาที่เพื่อระงับเหตุการณรายแรงใหยุติโดยเร็วและหากปลอยเนิ่นชาจะทําใหไมอาจระงับเหตุการณไดทันทวงที
(5) ประกาศใหพนักงานเจาหนาที่มีอานาจออก ํคําสั่งตรวจสอบจดหมาย หนังสือ สิ่งพิมพ โทรเลข
โทรศัพท หรือการสื่อสารดวยวิธีการอื่นใด ตลอดจนการสั่งระงับหรือยับยั้งการติดตอหรือการสื่อสารใด เพื่อปองกันหรือระงับเหตุการณรายแรง โดยตองปฏิบัติตามหลักเกณฑที่กําหนดไวในกฎหมายวาดวย
การสอบสวนคดีพิเศษโดยอนุโลม
(6) ประกาศหามมิใหกระทําการใด ๆ หรือสั่งใหกระทําการใด ๆ เทาที่จําเปนแกการรักษาความเปรียบเทียบเนื้อหากฎหมาย 3 ฉบับ, กฎอัยการศึก-พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.ความมั่นคง โดย อ.สมชาย ปรีชาศิปลกุล มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน 5 มั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประเทศ หรือความปลอดภัยของประชาชน
(7) ประกาศใหพนักงานเจาหนาที่มีอํานาจออกคําสั่งหามมิใหผูใดออกไปนอกราชอาณาจักร เมื่อมีเหตุ
อันควรเชื่อไดวาการออกไปนอกราชอาณาจักรจะเปนการกระทบกระเทือนตอความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประเทศ
(8) ประกาศใหพนักงานเจาหนาที่มีอํานาจสั่งการใหคนตางดาวออกไปนอกราชอาณาจักร ในกรณีที่
มีเหตุอันควรเชื่อไดวาเปนผูสนับสนุนการกระทําใหเกิดสถานการณฉุกเฉิน ทั้งนี้ โดยใหนำกฎหมายว่าดวยคนเขาเมืองมาใชบังคับโดยอนุโลม
(9) ประกาศใหการซื้อ ขาย ใช หรือมีไวในครอบครองซึ่งอาวุธ สินคา เวชภัณฑ เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ หรือวัสดุอุปกรณอยางหนึ่งอยางใดซึ่งอาจใชในการกอความไมสงบหรือกอการรายตอง
รายงานหรือไดรับอนุญาตจากพนักงานเจาหนาที่หรือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่นายกรัฐมนตรีกําหนด
(10) ออกคําสั่งใหใชกําลังทหารเพื่อชวยเจ้าหน้าที่ฝายปกครองหรือตํารวจระงับเหตุการณรายแรง หรือควบคุมสถานการณใหเกิดความสงบโดยดวน ทั้งนี้ ในการปฏิบัติหนาที่ของทหารใหมีอํานาจ
หนาที่เชนเดียวกับอํานาจหนาที่ของพนักงานเจาหนาที่ตามพระราชกําหนดนี้ โดยการใชอํานาจหนาที่ของฝายทหารจะทําไดในกรณีใดไดเพียงใดใหเปนไปตามเปรียบเทียบเนื้อหากฎหมาย 3 ฉบับ, กฎอัยการศึก-พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.ความมั่นคง โดย อ.สมชาย ปรีชาศิปลกุล มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
เงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่นายกรัฐมนตรีกําหนด แตตองไมเกินกวากรณีที่มีการใชกฎอัยการศึก
ความรับผิดของเจาหนาที่กรณีทําใหเกิดความเสียหาย ความเสียหายซึ่งอาจบังเกิดขึ้นอยางหนึ่งอยางใด ในเรื่องอํานาจของเจาหนาที่ฝายทหาร บุคคล หรือ บริษัทใดๆ จะรองขอคาเสียหายหรือคาปรับอยาง
หนึ่งอยางใดแกเจาหนาที่ฝายทหารไมไดเลย เพราะอํานาจทั้งปวงที่เจาหนาที่ฝายทหารไดปฏิบัติ
และดําเนินการตามกฎอัยการศึกนี้ เปนการสําหรับปองกันพระมหากษัตริย ชาติ ศาสนาดวย
กำลังทหารใหดํารงคงอยูในความเจริญรุงเรืองเปน
อิสรภาพ และสงบเรียบรอยปราศจากราชศัตรูภายนอกและภายใน
ผูไดรับความเสียหายจากการปฏิบัติหนาที่ตามพระราชกําหนดนี้ อาจมีสิทธิที่จะเรียกรองคาเสียหายจากทางราชการตามกฎหมายวาดวยความรับผิดทางละเมิดของเจาหนาที่ ในการใชอํานาจของ กอ.รมน. ปองกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแกไขหรือบรรเทาเหตุการณที่
กระทบตอความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ถากอใหเกิดความเสียหายแกประชาชนผูสุจริต ให กอ.รมน. จัดใหผูนั้นไดรับการชดเชยคาเสียหายตามควรแกกรณีตามหลักเกณฑและเงื่อนไขที่
คณะรัฐมนตรีกําหนด

ระยะเวลา บังคับใชตั้งแตประกาศ จนกระทั่งมีประกาศกระแสพระบรมราชโองการยกเลิก ใชบังคับตลอดระยะเวลาที่นายกรัฐมนตรีกําหนด แตตองไมเกิน3เดือนนับแตวันประกาศ ในกรณีที่มีความ
จําเปนตองขยายเวลา ขยายไดเปนคราวๆ คราวละไมเกิน 3เดือน
ตามกําหนดที่คณะรัฐมนตรีมีมติประกาศ
** สรุป
ตาม พรบ.รักษาความมั่นคงภายในฯ พนักงานเจ้าหนาที่ซึ่งปฏิบัติหน้าท ี่ภายในพื้นที่ที่กําหนด อาจไดรับคาตอบแทนพิเศษตามที่คณะรัฐมนตรีกําหนด
พนักงานเจาหนาที่ซึ่งปฏิบัติหนาที่ภายในพื้นที่ที่กําหนดผูใด เจ็บปวย เสียชีวิต ทุพพลภาพ พิการ หรือสูญเสียอวัยวะอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหนาที่ ให
ไดรับสิทธิประโยชนอนนอกเหนือจากที่มีกฎหมายกําหนด ทั้งน้ ีตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกําหนด
//ในกฎหมายฉบับอื่นไมปรากฎ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น